วิธีเลือกปลั๊กพ่วงให้เหมาะการใช้งาน

วิธีเลือกปลั๊กพ่วงให้เหมาะการใช้งาน

ปลั๊กพ่วง หรือ รางปลั๊กไฟ เป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้านมี ซึ่งเราสามารถใช้ปลั๊กพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้พร้อมกันหลายๆ เครื่อง แต่ทราบหรือไม่ว่าเราควรเลือกปลั๊กพ่วงให้เหมาะกับการใช้งานที่บ้านของเราอย่างไร ซึ่งเรามีวิธีเลือกปลั๊กพ่วงให้เหมาะกับการใช้งาน และเหมาะกับบ้านของคุณมาแนะนำ

ประเภทของปลั๊กพ่วง

-ปลั๊กพ่วงแบบที่ 1 ปลั๊กพ่วง 2 ขา

 หลายคนคุ้นเคยกับปลั๊กพ่วงหรือรางปลั๊กไฟแบบนี้อยู่แล้ว โดยปลั๊กพ่วง 2 ขา จะมีเต้าเสียบปลั๊กรองรับปลั๊กของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ประมาณ 3-4 ตัวตามขนาดและดีไซน์ แรงดันไฟฟ้าของปลั๊กพ่วง 2 ขา มีมากถึง 1,500 วัตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป เช่นใช้กับพัดลมชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์หรือแท็บเล็ต

-ปลั๊กพ่วงแบบที่ 2 ปลั๊กโรลสายไฟ

ตัวปลั๊กจะถูกม้วนเก็บและสามารถดึงสายปลั๊กไฟออกมาใช้งานได้ในตัวเดียวกันเต้าเสียบสำหรับปลั๊กประเภทนี้มีให้เลือก 2 แบบคือแบบ 2 ขา และแบบ 3 ขา โดยปลั๊กจะรองรับพลังงานไฟฟ้าได้มากถึง 2,500-3,500 วัตต์ เหมาะกับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการพื้นที่กว้าง เพราะสายไฟค่อนข้างยาวม้วนเก็บง่าย และเคลื่อนย้ายได้สะดวก หากนำมาใช้ควรดึงสายไฟให้หมดโรลก่อน เพื่อความปลอดภัย

-ปลั๊กพ่วงแบบที่ 3 ปลั๊กบ็อกยางสนาม

 ปลั๊กแบบนี้มีขนาดพอดี พกพาได้ง่าย ตัวเต้าปลั๊กทำจากยาง ซึ่งลดแรงกระแทก ทำให้ทนทาน ใช้งานได้นาน รูปทรงและดีไซน์เรียบง่าย ธรรมดาขนาดแรงดันไฟฟ้าที่รองรับได้คือ 3,500 วัตต์ ขึ้นอยู่กับรุ่น เหมาะกับงานช่าง

-ปลั๊กพ่วงแบบที่ 4 ปลั๊กกรองไฟ

ปลั๊กพ่วงประเภทนี้ประกอบด้วยเต้าเสียบที่รองรับปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เยอะ ตัวปลั๊กขนาดพอเหมาะ กำลังดี และมีราคาสูง เพราะมาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยกรองสัญญาณภาพและเสียง ทำให้ปราศจากคลื่นแทรกรบกวนและยังช่วยกันไฟกระชากได้เป็นอย่างดี สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้มากถึง 3,500 วัตต์

ปลั๊กพ่วงแบบที่ 5 ปลั๊กกันไฟกระชาก

 รางปลั๊กไฟประเภทนี้คล้ายกับปลั๊กพ่วง แต่ต่างกันที่คุณสมบัติเฉพาะ โดยปลั๊กกันไฟกระชากประกอบด้วยวงจรกันไฟกระชาก กันฟ้าผ่า และหม้อแปลงระเบิด ระดับการกันไฟกระชากมากน้อยแตกต่างตามจำนวนจูลล์สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ที่ 10A2,500 วัตต์-16 A-3,500 วัตต์ สำหรับใครที่ใช้ปลั๊กประเภทนี้ควรติดตั้งสายดิน

วิธีเลือกปลั๊กพ่วง

-เมื่อรู้จักปลั๊กพ่วงแต่ละประเภทแล้ว การเลือกปลั๊กพ่วงยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ คู่ไปด้วย ทั้งเรื่องการใช้ไฟฟ้า ราคา เพราะการเลือกปลั๊กที่เข้ากับการใช้งานจะช่วยให้เราได้ปลั๊กพ่วงสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ๆได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ

-จำนวนเต้าเสียบ ควรเลือกปลั๊กพ่วงที่มีจำนวนเต้าเสียบใกล้เคียงกับจำนวนปลั๊กของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการเสียบใช้งานพร้อมกัน โดยอาจสังเกตจากกิจกรรมที่ทำ และการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในแต่ละวัน เพื่อจะได้เลือกปลั๊กพ่วงประเภทไหน รุ่นใด และขนาดใดให้เหมาะสม ที่สำคัญคือไม่ควรซื้อปลั๊กพ่วงหลายอันเพื่อนำไปต่อกัน เพราะอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้

-ความยาวและขนาดรูปร่าง ก่อนจะตัดสินใจซื้อปลั๊กพ่วงควรคำนวณก่อนว่าจะวางปลั๊กพ่วงห่างจากเต้าเสียบแค่ไหน เพื่อจะได้เลือกปลั๊กพ่วงที่มีสายไฟเสียบเต้าปลั๊กได้พอดีโดยให้เลือกปลั๊กพ่วงที่มีความยาวสายไฟเท่ากับระยะห่างจากเต้าเสียบเป็นอย่างต่ำ นอกจากจากนี้ขนาดรูปร่างของปลั๊กพ่วงแต่ละแบบก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ขนาดมาตรฐานแบบ front-facing แบบ rear-facing แบบ side-facing และเต้าเสียบแบบ end-mounted

-ชนิดของอุปกรณ์ หากทราบว่าจะนำปลั๊กพ่วงมาเสียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใด จะทำให้เลือกซื้อปลั๊กพ่วงได้ง่ายขึ้น เพราะการเลือกปลั๊กพ่วงแต่ละประเภทก็เหมาะกับการนำไปใช้ภายในพื้นที่ที่ต่างกันขึ้นกับวัสดุ ขนาดรูปร่าง และฟังก์ชั่นการใช้งาน

-มาตรฐานความปลอดภัย ปลั๊กพ่วงบางประเภทมีฟังกัชั่นรองรับและเสริมมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งาน โดยทางรุ่นมีฟังก์ชั่น circuit breakerป้องกันการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเกินไป หรือฟังก์ชั่น GFCI หรือวงจรตัดไฟรั่วเพื่อป้องกันไฟช็อต

-การป้องกันไฟกระชาก นับเป็นฟังก์ชั่นสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อปลั๊กพ่วงเพราะหากเกิดไฟกระชากจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย และเสื่อมสภาพเร็ว ปลั๊กพ่วงที่มีฟังก์ชั่นป้องกันไฟกระชากจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้

**ขอขอบคุณข้อมูลจาก sanook** 

Visitors: 248,714